ชีวิตก็เหมือนวงจรเกิดดับ มันดำเนินต่อไปแบบไร้ที่สิ้นสุด จนกว่าคุณจะเข้าใจการทำงานของมัน ถึงจะพาตัวเองเดินออกมาได้ ทุกครั้งที่เกิดมาบนโลก คุณจะลืมอดีตและเริ่มต้นเรียนรู้จากจุดเริ่มต้นใหม่ ต้องทำความเข้าใจในบทเรียนของชีวิตอีกครั้งวนเวียนอย่างนี้เรื่อยไป ความจริงแล้วคุณไม่ได้ลืมบทเรียนจากอดีตชาติหรอก เพียงแต่คุณยังจำมันไม่ได้เท่านั้นเอง เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณตั้งคำถามว่าชีวิตคืออะไร เราเกิดมาเพื่อเรียนรู้อะไร มันพาจิตวิญญาณของคุณให้กลับมาจำได้อีกครั้ง ฉันได้เรียนรู้อะไรมากมายเกี่ยวกับตัวเองในช่วงชีวิตนี้ ผ่านการทำเรกิบำบัดให้กับตัวเอง ฉันได้รู้ว่าฉันเคยเป็นใครในอดีต อะไรคือบทเรียนที่ฉันต้องเรียนรู้ในปัจจุบัน ฉันได้รับคำตอบมากมายที่ต้องการรู้เกี่ยวกับเป้าหมายของชีวิตที่เกิดมาในครั้งนี้ หลังจากที่เรียนจบเรกิมาสเตอร์จากอาจารย์สตีฟ ฉันทำบำบัดให้ลูกค้ามากมาย พวกเขามาหาฉันด้วยปัญหาที่แตกต่างกัน แต่ฉันพบว่าจุดร่วมกันของปัญหาที่พวกเขามีคือ ในอดีตพวกเราต่างขาดความรัก ความรักสามารถสร้างความเห็นอกเห็นใจ การให้อภัย การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การเป็นหนึ่งเดียวกัน ผู้คนส่วนใหญ่ที่มีปัญหาทั้งกายและใจ มักมาจากการมีความคิดที่แบ่งแยกและขัดแย้ง มันจึงสร้างอารมณ์ด้านร้ายออกมาจิตวิญญานที่ไร้ความสุขจะส่งผลต่อสุขภาพและชีวิตของพวกเขาเอง รวมถึงการมีพลังงานด้านลบต่อผู้คนรอบตัวของเขา ผู้คนส่งต่อเมล็ดพันธ์ุที่ไม่สมบูรณ์และการเจ็บป่วยเรื้อรังต่อๆไป ฉันบำบัดตัวเองด้วยเรกิและเห็นผลได้ในหลายๆเรื่อง มันทำให้เห็นถึงเหตุและผลของการกระทำในอดีตว่าฉันได้ทำอะไรมาในแต่ละช่วงชีวิต มันเห็นถึงสัจธรรมของการกระทำ นอกจากนี้ เรกิทำให้ฉันสามารถบำบัดลึกลงไปในหลายๆภพชาติอีกด้วย มันทำให้ฉันเข้าใจว่าฉันควรจะจัดการกับตัวเองอย่างไรในปัจจุบัน การเห็นความจริงในปัจจุบันคือกุญแจสำคัญที่จะเปลี่ยนโลกภายในของคุณ เรกิได้ให้ความสงบสุขและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างฉันกับผู้คนรอบตัว ทำให้ฉันมีพลังที่จะแบ่งปันความสุขให้ผู้อื่นต่อไป หลังจากที่เรกิช่วยปรับเปลี่ยนมุมมองของฉันที่มีต่อโลกใบนี้ ฉันจึงมีหลายเรื่องราวที่อยากแบ่งปันความรู้ให้กับนักเรียนของฉัน ทั้งองค์ความรู้ ปัญญาในการเห็นความจริง และศาสตร์การเยียวยา มันเป็นการเรียนรู้ที่สนุก ความจริงของจักรวาลที่คุณเห็นด้วยจิตวิญญาณจะทำให้คุณประหลาดใจ มันเป็นการพัฒนาศักยภาพตัวเองอย่างแท้จริง และมันจะอยู่กับคุณตลอดไป ฉันภูมิใจที่ได้เป็นครูของสยามเรกิ ฉันรอคอยที่จะช่วยเหลือผู้คนในการพัฒนาทักษะด้านนี้ เพื่อให้พวกเขามีชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน
Category Archives: Grandmasters of Siam Reiki
อาจารย์สตีฟ ผู้ที่สร้างมาตรฐานสูงให้กับการบำบัดเรกิแบบสายอาชีพ คุณสตีฟ (ลี เหว่ย เต๋อ) ผู้ก่อตั้งสถาบันสยามเรกิและเป็นผู้ปฏิบัติตามคำสอนในฐานะผู้รักษาสันติสุขเพื่อโลกใบนี้ เขาทำการสอนและฝึกฝนเรกิบำบัดตั้งแต่ขั้นพื้นฐานจนไปถึงระดับสูงสุด ตลอดจนคอร์สเรียนเพื่อพัฒนาศักยภาพตัวเอง เพื่อช่วยเหลือผู้คนให้เกิดการตระหนักรู้ บำบัดตัวเอง คนในครอบครัวและผู้คนในสังคม คุณสตีฟได้รับการร่วมมือกับสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย เพื่อทำโปรแกรมการบำบัดแบบเฉพาะผสมผสานกับศาสตร์การรักษาแบบปกติ เปิดศูนย์บำบัดที่ประเทศไทย โดยมีทั้งเครื่องมืออุปกรณ์ อาหาร ยา และองค์ความรู้ด้านการนวดไทย เครื่องตรวจวัดพลังงาน การบำบัดเรกิ และได้ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็ง และโรคร้ายแรงอื่น ๆ อาจารย์สตีฟนับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับโลกจะมีการรับรู้ทางสัมผัสที่เฉียบคมและความสามารถการรักษาด้วยจิต เขาออกเดินทางเพื่อทำการบำบัดตั้งแต่เอเชีย ยุโรป และสหรัฐฯ รวมไปถึงประเทศตะวันออกกลาง ในขณะเดียวกันเขาก็ได้รู้จักในฐานะนักเล่นแร่แปรธาตุและนักพลังจิต ความสามารถของเขาเมื่อนำไปใช้กับวิถีชนบท มันง่ายต่อความเข้าใจเรื่องข้อมูลเหล่านี้ และเขาก็สั่งสมประสบการณ์ทำงานด้านนี้มามากกว่า 20 ปีจนโดดเด่น และเป็นผู้บรรยายวิชานี้ที่ออสเตรเลีย ไทย มาเลเซีย จีน และไต้หวัน อาจารย์สตีฟพัฒนาและผลักดันให้ผู้ที่ฝึกเรกิและครูเรกิให้ไปยังเส้นทางที่ทัดเทียมหรือเหนือกว่าเรกิมาสเตอร์คนอื่น ๆ ก่อนหน้าที่จะมาสายเรกิ อาจารยืสตีฟเคยเป็นครูกังฟูมาก่อน และสอนวิชาอย่างชี่กง การกดจุดแบบจีน จัดกระดูก การประคบร้อน-เย็น และการบำบัดด้วยการนวด เขามีลูกศิษย์ในวิชากังฟูถึง 200 คน และในช่วงเวลาเดียวกันนั้น อาจารย์สตีฟก็ได้เป็นมาสเตอร์ และเป็นผู้สอนสายจิตวิญญาฯและศาสตร์พลังงาน […]
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับผู้ก่อตั้งสยามเรกิ (นักข่าว): คุณสตีฟ ทำไมคุณถึงตัดสินใจจดทะเบียนจัดตั้งสถาบันสยามเรกิ? (อาจารย์ สตีฟ): หลังจากออกเดินทางและได้พบปะกับนักเรียนเรกิหลายคนจากทั่วโลก พบว่ามีความหลากหลาย และความแตกต่างในวิธีการฝึกฝนและการทำความเข้าใจว่าเรกิคืออะไร (ศาสตร์ของพลังงานบำบัด)และมีวิธีในการฝึกปฏิบัติเช่นไร ความแตกต่างเหล่านี้ได้ตกผลึกหลังจากได้พูดคุยกับนักเรียนเรื่องการฝึกและการทำความเข้าใจในศาสตร์นี้ ว่าพวกเขาต้องฝึกบำบัดให้เพียงพอในแต่ละระดับที่ได้เรียน รวมไปถึงจำนวนครั้งในการปรับพลังงาน(attunements)ที่พวกเขาได้รับมา มันยิ่งเห็นชัดมากขึ้นว่าครูเรกิทั่วโลกสอนด้วยแนวความคิดที่แตกต่างกัน อย่างเช่น เทคนิคการทำสมาธิบางอย่างมีผลต่อการลดลงของพลังงานของนักเรกิบำบัด ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่มีแค่ชายหาดสวยงาม อาหารเพื่อสุขภาพรสชาติดี หรือศาสนาพุทธเท่านั้น แต่เป็นสถานที่ที่ผู้คนมาเพื่อความผ่อนคลาย ฟื้นฟูตัวเองรวมไปถึงการเชื่อมต่อกับจิตใจและจิตวิญญาณของตัวเอง ผมเลยก่อตั้งศูนย์การสอนหลักที่กรุงเทพฯ และเราก็มีอีกสาขาอยู่ที่เกาะช้าง ซึ่งสองที่ใช้เวลาไม่นานในการขับรถจากกรุงเทพฯ มายังอ่าวแห่งนี้ (นักข่าว): ข้อดีของการมีศูนย์กลางที่ประเทศไทย ในกรุงเทพฯ คืออะไร? (อาจารย์ สตีฟ): ประเทศไทยเปรียบเสมือนบ้านที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมการรักษาแบบพื้นเมือง รวมไปถึงยาสมุนไพรทั้งหลาย วิถีแบบโบราณอย่างวิธีบำบัดด้วยการนวด ประคบร้อนด้วยสมุนไพร และการจัดยาสมุนไพรต่าง ๆ เป็นที่น่าเชื่อถือ ปัจจุบันฉันได้ทำงานร่วมกันกับนายกสมาคมสยามการแพทย์ดั้งเดิมและดำเนินโครงการไว้ที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อทำเสร็จก็จะกลายเป็นองค์การระหว่างประเทศสำหรับศึกษาศาสตร์การแพทย์ดั้งเดิม และพวกเราก็จะเป็นโรงพยาบาลที่รักษาด้วยวิถีธรรมชาติ ผู้คนสามารถมาใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับการรักษาแบบดั้งเดิมกับที่พักโฮมสเตย์ให้กับผู้มาเยือน สถานที่แห่งนี้จะประกอบไปด้วยผืนดินเป็นหลักเพื่อทำสวนสมุนไพรและมีระบบการจัดการ ไม่ใช่แค่รับประกันเรื่องสมุนไพรที่มีคุณภาพสูงเท่านั้น แต่เราจะทำให้ของเหล่านี้เกิดประโยชน์อย่างอื่นได้ด้วย (นักข่าว): งั้นเราจะมาพูดถึงเรกิสักเล็กน้อย คุณคือเรกิมาสเตอร์และผู้ถ่ายทอดเรกิ มันมีความหมายอย่างไร? (อาจารย์ สตีฟ): มันอาศัยความเข้าใจและประสบการณ์อย่างลึกซึ้งเรื่องศาสตร์พลังงาน ว่ามันสัมพันธ์กับร่างกายอย่างไร นักเรกิบำบัดมีพลังงานของการบำบัดอยู่รอบๆตัว เมื่อเข้าสู่การบำบัด […]